อารักษ์ เข้าสู่วงการบันเทิงจากการเดินแบบ และ ถ่ายแบบลงนิตยสารแฟชั่น ขณะเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่ที่ บริษัท เกรย์ ฮาวนด์

เพลง

เสลอ

ในปี พ.ศ. 2548 อารักษ์ ถูกชักชวนให้เข้าร่วมวงเสลอในฐานะมือกีต้าร์ ซึ่งในขณะนั้นประกอบด้วยสมาชิกอีก 4 คน ได้แก่ จักรพันธ์ บุณยะมัต (ชื่อเล่น : เย่ ; ตำแหน่ง : ร้องนำ) ธิติพันธุ์ อนะวัชพงษ์ (ชื่อเล่น : เอม ; ตำแหน่ง : กลอง) ธนันต์ บุญญธนาภิวัฒน์ (ชื่อเล่น : บู้ ; ตำแหน่ง : เบส) และ ธีรวัต อุทัย (ชื่อเล่น : แบงค์ ; ตำแหน่ง : ทรัมเปต) หลังจากตระเวนเล่นคอนเสิร์ตตามงานดนตรีนอกกระแส ควบคู่ไปกับการทำเดโมส่งค่ายเพลง ในปี พ.ศ. 2549 วงเสลอ ก็ได้ออกอัลบั้มเต็มชุดแรก (Boo!) ในสังกัด สมอลล์รูม ด้วยแนวเพลงสไตล์อัลเทอร์เนทีฟร็อก

วงเสลอ เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะคลื่นลูกใหม่ของวงการดนตรีนอกกระแสในไทย และ ได้รับเชิญจาก นอยซ์เดอลุกซ์ เรคคอร์ดส ให้ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ เมืองฮัลเลอ ประเทศเยอรมนี [2] ก่อนอัลบั้มชุดที่สองของวงเสลอ (Bum) จะออกจำหน่ายในปี พ.ศ. 2551

ต่อมาในปี พ.ศ. 2553 อารักษ์ ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก (ออโต้ อีโรติก) ในสังกัด สมอลล์รูม ด้วยแนวเพลงสไตล์เพียวโฟล์ก ผ่านเครื่องดนตรีเพียงแค่ 2 ชิ้น คือ กีต้าร์โปร่ง และ ฮาร์โมนิก้า [3] ควบคู่ไปกับอัลบั้มชุดที่สามของวงเสลอ (Boong)

อารักษ์ ในฐานะศิลปินเดี่ยว และ นักแต่งเพลง ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เรื่อง สไตล์การร้องซึ่งได้รับอิทธิพลมาจาก บ็อบ ดีแลน และ เนื้อหาของเพลงที่เสียดสีสังคม [4] แต่ไม่นานนักหลังจากปล่อยซิงเกิลแรก "มาเลเซีย" กลับกลายเป็นเพลงฮิตติดปาก ขึ้นชาร์ตอันดับ 1 คลื่นวิทยุในไทยอยู่หลายสัปดาห์ [5] ส่งผลให้ อารักษ์ ได้รับรางวัล คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 8 สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2553

จนกระทั่งในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554 อารักษ์ ประกาศถอนตัวออกจากวงเสลอ ด้วยเหตุผลเรื่องเวลาไม่ตรงกัน [6]

อารักษ์ แอนด์ เดอะปีศาจแบนด์

ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 อารักษ์ ได้ออกอัลบั้มชุดที่สอง (อารักษ์ แอนด์ เดอะปีศาจแบนด์) ในสังกัด บีลีฟ เรคคอร์ดส ร่วมกับ เดอะปีศาจแบนด์ ซึ่งในขณะนั้นประกอบด้วยสมาชิก 2 คน ได้แก่ วงศ์วริศ อาริยวัฒน์ (ชื่อเล่น : อัด ; ตำแหน่ง : แบนโจ) และ สุธัช นฤนาทวานิช (ชื่อเล่น : เนม ; ตำแหน่ง : ดับเบิ้ลเบส) ด้วยแนวเพลงสไตล์โฟล์กคันทรี่ โดยยังคงมีเนื้อหาของเพลงที่สะท้อนสังคม แต่ฟังสบายเข้าใจง่ายขึ้น [7][8] หลังจากปล่อย 2 ซิงเกิลแรก "ไก่" ที่กลับมาสร้างความฮือฮาให้กับวงการดนตรีในไทยอีกครั้ง และ "สมศรี" ที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม ด้วยเนื้อหาของเพลงที่เตือนใจวัยรุ่น เรื่อง การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ส่งผลให้ อารักษ์ และ วงเดอะปีศาจแบนด์ ได้รับรางวัล สีสันอวอร์ด ครั้งที่ 25 สาขาอัลบั้มยอดเยี่ยม และ สาขาบันทึกเสียงยอดเยี่ยม เพลง "ความรุนแรง" ประจำปี พ.ศ. 2555

หลังจากห่างหายไปนานกว่า 4 ปี อัลบั้มชุดที่สาม (เหล็กกับไม้) ของ อารักษ์ และ เดอะปีศาจแบนด์ ก็ได้ออกจำหน่ายในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ในสังกัด วอท เดอะ ดัก ด้วยแนวเพลงสไตล์โฟล์คร็อค ขณะนี้อยู่ระหว่างการปล่อยซิงเกิลจากอัลบั้มที่ 4 โดยมีการปล่อยซิงเกิลใหม่เดือนละ 1 เพลง

ภาพยนตร์

บอดี้ศพ 19 (2550) และ รักสามเศร้า (2551) ผลงานภาพยนตร์ 2 เรื่องแรกของ อารักษ์ นอกจากจะทำให้ อารักษ์ รู้สึกว่าการแสดงเป็นเรื่องสนุกท้าทายแล้ว [9] ความสำเร็จของภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่อง ยังส่งผลให้ อารักษ์ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะนักแสดง และ มีผลงานภาพยนตร์ต่อเนื่องในปีถัดมา

บุปผาราตรี 3.1 รับบท คนอยู่อาพาร์ตเม้นที่ห้อง609 (นักแสดงรับเชิญ)

ละครโทรทัศน์

ภาพยนตร์สั้น

• Before Friend Zone (2562)
• ACROSS THE YOUNIVERSE (2562)

พิธีกร

• เกษตรซ้าด ช่องนิวทีวี
• คนค้นฅน ช่องทีวีบูรพา
• ชีวิตดีดี๊ ช่อง 3
• เกษตร อีซี่ ช่องไทยพีบีเอส

นักมวย

• รายการ 10 Fight 10 ชกกับ ศรัณยู ประชากริช

นักยูโด

• รายการ CU JUDO TOURNAMENT 18 การแข่งขันยูโดสายขาว-เขียว โดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 16 มีนาคม 2562

หนังสือ

• สิ่งที่สวยงามมักจะอยู่ไกลออกไป